ใครที่กำลังหาเครื่องดนตรีสักชิ้นเพื่อจะได้บรรเลงเพลงเป็นกับเขาบ้าง แม้จะไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แบบบางคนที่ "จับปุ๊บติดปั๊บ" ลองไปหาเครื่องดีดตัวน้อยๆที่มีชื่อว่า "อูคูเลเล่" (Ukulele) เครื่องดนตรีสัญชาติ "ฮาวาย" ที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับ"กีตาร์" ย่อส่วนลงและลดจำนวนสายเหลือแค่ 4 สาย ขนาดกะทัดรัด รูปร่างน่ารัก พกพาสะดวกและมีเสียงที่ไพเราะ เล่นที่ไหนเมื่อไหร่ครื้นเครงได้เมื่อนั้น ขนาดเพลงเศร้าที่มี "อูคูเลเล่" ยังทำให้ฟังสนุกได้
เริ่มแรก "อูคูเลเล่" เป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่งบ้านของคนไทยที่หิ้วมาจากต่างประเทศ ใครพบเจอครั้งแรกก็คิดว่าเป็นของเด็กเล่นพร้อมกับตั้งคำถาม "เล่นได้จริงหรือ" จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ "อูคูเลเล่" กลายเป็นเครื่องดนตรีสุดฮิตในกลุ่มวัยต่างๆ ทั้ง เล็ก กลาง ใหญ่ ที่หันมาสนใจอย่างจริงจังหลังจากได้ยินเสียง "อูคูเลเล่" บรรเลงโดยชายร่างใหญ่(มาก) IZ Isreael Kamakawiwo ร้องเพลงสไตล์ฮาวาย ในชื่อเพลง Somewhere Over the Rainbow - What a Wonderful World ที่สะกดจิตผู้ฟังให้เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงอันไพเราะของนักร้องและเครื่องดนตรีตัวจิ๋วที่ไปอยู่ในมือชายร่างใหญ่โต และยังมี Jack Johnson, Jason Mraz หรือ John Mayer ที่โด่งดัง และผลงานเพลงของพวกเขาก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ในประเทศไทย "อูคูเลเล่" เข้ามาแพร่หลายเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาและฮิตกันสุดๆเมื่อปลายปี 53 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 54 ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมากหันมาเล่น"อูคูเลเล่" จนเครื่องดนตรีชนิดนี้ขาดตลาดขนาดแหล่งใหญ่อย่าง"เวิ้งนครเกษม"ก็ต้องสั่งกัน 5-6 เดือนกว่าจะได้ของ แม้แต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆยังหมดเกลี้ยง จนบางคนเข้าไปสั่งในอินเตอร์เน็ตส่งมาทางเรือก็ต้องรอเป็นเดือน
กระแส "อูคูเลเล่" ฟีเวอร์ เริ่มต้นจาก "สิงโต นำโชค" หรือชื่อจริง นำโชค ทะนัดรัมย์ ชื่อเล่น "บักสิงโต" เจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 และ รางวัล People Choice ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด จากการประกวด Ukulele Thai ร่วมกับร้าน ริบบี บูติก จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย นำเครื่องดนตรีชนิดนี้มาประกอบการร้องเพลงจนใครๆก็อยากเล่นตาม บวกกับกระแสนักร้องนักแสดงเมืองไทยหยิบจับดีดโชว์เล็กๆน้อยๆก็ทำให้คนแห่ตามไปสัมผัสบ้าง
เสน่ห์ของเครื่องดนตรีฮาวายชิ้นนี้ ไม่ใช่เพราะเห่อตามดารานักร้อง แต่เมื่อใครได้พบเห็นและสัมผัสจะเห็นความน่ารักในตัวของมันเอง เสียงที่สนุกสนานประกอบการเล่นที่ไม่ยากเกินความสามารถของผู้ที่อยากลองเล่นเครื่องดนตรีสักชิ้น เริ่มจาก "อูคูเลเล่" รับรองไม่ผิดหวัง แม้จะไม่ถึงขั้นมืออาชีพเป็นแค่มือสมัครเล่นก็พอแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเครื่องดนตรีอะไรมาก่อนหรือพยายามแล้วแต่ไม่ได้ ขอแนะนำ "อูคูเลเล่" ส่วนใครที่มีพื้นฐานทางดนตรีแค่จับดีดวันเดียวก็เล่นได้แล้ว
มีกลุ่มนักดนตรีที่สนใจ "อูคูเลเล่" ตั้งเป็นชุมชน ukulele เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำสำหรับคนไทยที่กำลังหัดเล่นและสนใจเจ้าเครื่องดนตรีชนิดนี้ โดยสร้างเว็บไซต์ชื่อ UkuleleThai.com เน้นการให้ความรู้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจ อูคูเลเล่ จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพ ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต่างประเทศ ได้เข้ามาพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน โดยตามแกะเนื้อหาวิธีการจากเว็บในต่างประเทศมาแนะนำคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อ ตั้งเสียง คอร์ดเพลง และยังมีอาจารย์สอนอีกด้วย นอกเหนือจากมหาวิทยาลัย"ยูทูบ"
ปรีดา จารุสุนทรศรี ผู้ดูแลเว็บไซต์ UkuleleThai.com บอกว่า การเริ่มก่อตั้งเว็บนี้ขึ้นมาเริ่มจากคุณวุฒิ(พัศภูมิ เนาว์นาน) เกิดแรงบันดาลใจจากเครื่องดนตรีสัญชาติฮาวายที่ซื้อมาให้ลูกสาวเล่น หลังจากนั่งแกะโน้ตเอง รู้สึกว่ามันน่าสนใจและชอบมากจึงสนใจจริงจังจนนำมาสู่การสร้างเว็บขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนกับคนที่เล่นอูคูเลเล่ เริ่มขึ้นในปี 2551 มีคนสนใจประมาณ 800 คน พอปี 2552 เริ่มมีคนสนใจมากขึ้น จนกระทั่งปี 2553 มีคนเข้ามาเป็นสมาชิกแบบก้าวกระโดด 7,820 คน
ผู้ดูแลเว็บ UkuleleThai.com ยังบอกอีกว่า ทางทีมงานได้นำข้อมูลทางเว็บไซต์ต่างประเทศที่เขามีมาก่อนไทยนานแล้ว แกะวิธีการเล่น การดีด มาจากเว็บต่างประเทศล้วนๆ เพราะในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลเหล่านี้เลย ในเว็บจะมีวิธีการสอนและมีคลิปวิดีโอแนะนำสำหรับคนที่กำลังฝึกเล่นได้ดูตัวอย่างและทำตามจนกระทั่งเล่นเป็น
ปรีดา แนะนำว่า Ukulele มี 4 ขนาด คือ Tenor, Soprano , Concert และbaritone โดย Soprano จะมีเสียงแหลมกว่า ส่วน Concert เสียงจะทุ้มขึ้น และ Tenor จะทุ้มกว่า และ Sopranino เสียงมีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งอูคูเลเล่มีทั้งเนื้อไม้และพลาสติก สายทำมาจากเอ็นและถ้าแบบดีดีจะผสมไส้แกะจะทำให้ไม่เจ็บมือ และที่นิยมกันมากที่สุดจะเป็นขนาด Soprano , Concert เพราะว่าขนาดเล็กและพกพาสะดวก ราคามีทั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น
สำหรับเหตุผล 4 ข้อที่คนหันมาเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ปรีดา บอกว่า เพราะ 1. เล่นง่าย 2.ไม่เจ็บมือ(เจ็บน้อยลง) ต้องเลือกสายดีดี 3.แก้ปัญหาคนนิ้วสั้น และ 4.เล็กทำจากไม้ พกพาสะดวก กลุ่มคนที่เลือกเล่นเพราะไม่มีพื้นฐานทางด้านดนตรี เล่นแล้วไม่เจ็บมือ 50 % เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18-30 ปี ผู้หญิงชอบเล่นกีตาร์อยู่แล้ว พอฝึกกีตาร์เจ็บนิ้วเลิกไปแต่พอมาเจออูคูเลเล่รู้สึกว่ามันเล่นง่ายไม่เจ็บนิ้ว แล้วบอกต่อๆกัน
ทางด้านอาจารย์ผู้สอนเล่นอูคูเลเล่ "ศุขสันต์ ตรีนุภาพ" หรือ "ต้น" เล่าถึงทีมาในการมาเป็นครูสอนอูคูเลเล่ว่า มีพื้นฐานกีตาร์มาก่อนและอูคูเลเล่เล่นง่ายเหมือนกีตาร์ เสียงมีเสน่ห์ด้วยตัวมันเอง สนุกดี ชอบและสนใจ จับวันเดียวก็เล่นได้แล้ว แค่จำคอร์ดใหม่เท่านั้นเอง แต่เสียงกีตาร์จะละเอียดอ่อนมากกว่า อูคูเลเล่ ซึ่งจะให้เสียงสนุกสนานเล่นเพลงอะไรก็สนุกขนาดเล่นเพลงเศร้ายังสนุกได้(จริง)
"อูคูเลเล่เป็นแทรนด์น่าสนใจ อย่างคนไม่เคยเห็นแล้วมาเห็นแล้วอยากเล่น เริ่มจากหน้าตาน่ารักจะตั้งคำถามว่าเล่นได้จริงหรือเปล่า เล่นเป็นเพลงได้จริงหรือพอเล่นได้จริงจะสนใจขึ้นมาทันที"
ครูผู้สอนอูคูเลเล่ บอกเทคนิคว่า สำหรับคนเริ่มหัดเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจำ ใครที่เริ่มเล่นให้เลือกมา 1 เพลงแล้วจำคอร์ดให้ได้เป็นจุดเริ่มต้น จำว่าคอร์ดลงตรงไหนแล้วลองฟังดู ไม่ว่าจะฟังเวอร์ชั่นธรรมดาหรือ อูคูเลเล่ฟังด้วยตัวเอง แล้วมาฝึกดูว่าคอร์ดต้องจับอย่างไรแล้วเริ่มดีดลง ส่วนตัวเพลงไม้ตายที่เล่นทุกครั้งที่แนะนำคนอื่นให้เล่น เพลง I′m yours เป็นเพลงที่เล่นไม่ยากมีแค่ 4 คอร์ด และถ้าไปเล่นคู่กับกีตาร์ก็เข้ากัน เพราะเป็นโน้ตกลุ่มเดียวกัน
ส่วนปัญหาหลักๆที่พบคือ คือ กดคอร์ด D คนนิ้วใหญ่จะมีปัญหาแต่จะมีวิธี ถ้าเราฝึกจะหาวิธีกดของเราได้เองก็ไม่อยาก อย่างคอร์ด C จับอย่างไรก็ได้แค่ให้ตัวเองถนัด และคอร์ดต่อไปจะใช้นิ้วไหนก็ต้องให้มันสัมผัสกัน แต่ในยูทูบจะเห็นหลายแบบนั่นเพราะว่าเขาจะทำให้เก๋ๆ ไม่มีอะไรตายตัว ลองเอาหนังสือคอร์ดไปเปิดดูแล้วลองเล่นเพลงนั้น ถ้าคนเล่นกีตาร์มาก่อนจะจับจังหวะได้เร็วกว่า เพราะบางคนไม่คลิกเรื่องจังหวะ ส่วนใหญ่คนที่เล่นไม่เป็น คำถามแรก คือ "ดีดขึ้นกี่ทีดีดลงกี่ที" ก็จะสอนว่าเริ่มจากฟังก่อนแล้วจำเองให้ลงตรงกับที่หัวสมองบอกดีที่สุด หากไปบอกว่าดีลง 1 ที ขึ้น 2 ที ก็จะไม่ไปไหนเพราะเพลงแต่ละเพลงก็ไม่เหมือนกันดีดคนละแบบ ถ้าสามารถจับจังหวะเองได้ เข้าใจได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าฝึกทำได้แน่นอน ถ้าเล่นได้เองจะไปได้ไกล
"ลูกศิษย์ที่มาเรียน 90 % ไม่มีพื้นฐานดนตรีก่อนแต่มันไม่ยากเลย แต่เลี่ยงไม่ได้คือต้องจำและต้องฝึก ถ้าเรียนไปแล้ววางก็ลืม ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ต้องเริ่มจากความชอบ อยากจะเล่น และเล่นแล้วมีความสุข วิธีการเลือกเครื่องดนตรีคู่กายก็ต้องไปลองฟังเสียง ลองเล่นลองดีด ลองจับดู เพื่อจะได้เกิดความประทับใจกับเสียงที่เราเลือกแล้ว"
บางครั้งเราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่บางทีสิ่งนี้อาจจะเกิดมาเพื่อเราก็ได้ เพียงแค่เราไม่หยุดเสาะหามัน "พรแสวง" ที่หาง่ายกว่า "พรสวรรค์" จะบังเกิดขึ้นได้เพียงแค่มุ่งมั่น ตั้งใจ หมั่นฝึกฝน รักและชื่นชอบอย่างจริงจัง แล้วพยายามทำให้ดีที่สุด เพียงเท่านี้ "อูคูเลเล่" อาจกลายมาเป็นเครื่องดนตรีคู่กายของนักดนตรีมือสมัครเล่นที่อาจจะกลายมืออาชีพได้ในอนาคต ใครจะรู้ได้....?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น