Blog นี้จัดทำเพื่อให้เป็นความบันเทิง หลังจากที่ศึกษาจากวิชาที่เรียนคือวิชา อินเตอร์เน็ตในชีวิตปร่ะจำวัน

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

You Know Ukulele'









         ใครที่กำลังหาเครื่องดนตรีสักชิ้นเพื่อจะได้บรรเลงเพลงเป็นกับเขาบ้าง แม้จะไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แบบบางคนที่ "จับปุ๊บติดปั๊บ" ลองไปหาเครื่องดีดตัวน้อยๆที่มีชื่อว่า "อูคูเลเล่" (Ukulele) เครื่องดนตรีสัญชาติ "ฮาวาย" ที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับ"กีตาร์" ย่อส่วนลงและลดจำนวนสายเหลือแค่ 4 สาย ขนาดกะทัดรัด รูปร่างน่ารัก พกพาสะดวกและมีเสียงที่ไพเราะ เล่นที่ไหนเมื่อไหร่ครื้นเครงได้เมื่อนั้น ขนาดเพลงเศร้าที่มี "อูคูเลเล่" ยังทำให้ฟังสนุกได้



เริ่มแรก "อูคูเลเล่" เป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่งบ้านของคนไทยที่หิ้วมาจากต่างประเทศ  ใครพบเจอครั้งแรกก็คิดว่าเป็นของเด็กเล่นพร้อมกับตั้งคำถาม "เล่นได้จริงหรือ" จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ "อูคูเลเล่" กลายเป็นเครื่องดนตรีสุดฮิตในกลุ่มวัยต่างๆ ทั้ง เล็ก กลาง ใหญ่ ที่หันมาสนใจอย่างจริงจังหลังจากได้ยินเสียง "อูคูเลเล่" บรรเลงโดยชายร่างใหญ่(มาก) IZ Isreael Kamakawiwo  ร้องเพลงสไตล์ฮาวาย ในชื่อเพลง  Somewhere Over the Rainbow - What a Wonderful World ที่สะกดจิตผู้ฟังให้เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงอันไพเราะของนักร้องและเครื่องดนตรีตัวจิ๋วที่ไปอยู่ในมือชายร่างใหญ่โต และยังมี  Jack Johnson, Jason Mraz หรือ John Mayer ที่โด่งดัง และผลงานเพลงของพวกเขาก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก


ในประเทศไทย "อูคูเลเล่" เข้ามาแพร่หลายเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาและฮิตกันสุดๆเมื่อปลายปี 53 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 54 ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมากหันมาเล่น"อูคูเลเล่" จนเครื่องดนตรีชนิดนี้ขาดตลาดขนาดแหล่งใหญ่อย่าง"เวิ้งนครเกษม"ก็ต้องสั่งกัน 5-6 เดือนกว่าจะได้ของ แม้แต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆยังหมดเกลี้ยง จนบางคนเข้าไปสั่งในอินเตอร์เน็ตส่งมาทางเรือก็ต้องรอเป็นเดือน  


กระแส "อูคูเลเล่" ฟีเวอร์ เริ่มต้นจาก "สิงโต  นำโชค" หรือชื่อจริง นำโชค ทะนัดรัมย์ ชื่อเล่น  "บักสิงโต" เจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 และ รางวัล People Choice ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด จากการประกวด Ukulele Thai ร่วมกับร้าน ริบบี บูติก จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย นำเครื่องดนตรีชนิดนี้มาประกอบการร้องเพลงจนใครๆก็อยากเล่นตาม บวกกับกระแสนักร้องนักแสดงเมืองไทยหยิบจับดีดโชว์เล็กๆน้อยๆก็ทำให้คนแห่ตามไปสัมผัสบ้าง


เสน่ห์ของเครื่องดนตรีฮาวายชิ้นนี้ ไม่ใช่เพราะเห่อตามดารานักร้อง แต่เมื่อใครได้พบเห็นและสัมผัสจะเห็นความน่ารักในตัวของมันเอง เสียงที่สนุกสนานประกอบการเล่นที่ไม่ยากเกินความสามารถของผู้ที่อยากลองเล่นเครื่องดนตรีสักชิ้น เริ่มจาก "อูคูเลเล่" รับรองไม่ผิดหวัง แม้จะไม่ถึงขั้นมืออาชีพเป็นแค่มือสมัครเล่นก็พอแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเครื่องดนตรีอะไรมาก่อนหรือพยายามแล้วแต่ไม่ได้ ขอแนะนำ "อูคูเลเล่" ส่วนใครที่มีพื้นฐานทางดนตรีแค่จับดีดวันเดียวก็เล่นได้แล้ว


มีกลุ่มนักดนตรีที่สนใจ "อูคูเลเล่" ตั้งเป็นชุมชน ukulele เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำสำหรับคนไทยที่กำลังหัดเล่นและสนใจเจ้าเครื่องดนตรีชนิดนี้ โดยสร้างเว็บไซต์ชื่อ UkuleleThai.com  เน้นการให้ความรู้  การแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจ อูคูเลเล่ จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพ ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต่างประเทศ ได้เข้ามาพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน โดยตามแกะเนื้อหาวิธีการจากเว็บในต่างประเทศมาแนะนำคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อ ตั้งเสียง คอร์ดเพลง และยังมีอาจารย์สอนอีกด้วย นอกเหนือจากมหาวิทยาลัย"ยูทูบ"


ปรีดา จารุสุนทรศรี ผู้ดูแลเว็บไซต์ UkuleleThai.com บอกว่า การเริ่มก่อตั้งเว็บนี้ขึ้นมาเริ่มจากคุณวุฒิ(พัศภูมิ เนาว์นาน) เกิดแรงบันดาลใจจากเครื่องดนตรีสัญชาติฮาวายที่ซื้อมาให้ลูกสาวเล่น หลังจากนั่งแกะโน้ตเอง รู้สึกว่ามันน่าสนใจและชอบมากจึงสนใจจริงจังจนนำมาสู่การสร้างเว็บขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนกับคนที่เล่นอูคูเลเล่ เริ่มขึ้นในปี 2551 มีคนสนใจประมาณ 800 คน พอปี 2552 เริ่มมีคนสนใจมากขึ้น จนกระทั่งปี 2553 มีคนเข้ามาเป็นสมาชิกแบบก้าวกระโดด 7,820 คน 
  
ผู้ดูแลเว็บ UkuleleThai.com ยังบอกอีกว่า ทางทีมงานได้นำข้อมูลทางเว็บไซต์ต่างประเทศที่เขามีมาก่อนไทยนานแล้ว แกะวิธีการเล่น การดีด มาจากเว็บต่างประเทศล้วนๆ เพราะในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลเหล่านี้เลย ในเว็บจะมีวิธีการสอนและมีคลิปวิดีโอแนะนำสำหรับคนที่กำลังฝึกเล่นได้ดูตัวอย่างและทำตามจนกระทั่งเล่นเป็น


ปรีดา แนะนำว่า Ukulele มี 4 ขนาด คือ Tenor, Soprano , Concert  และbaritone โดย Soprano จะมีเสียงแหลมกว่า ส่วน Concert  เสียงจะทุ้มขึ้น และ Tenor จะทุ้มกว่า และ Sopranino เสียงมีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งอูคูเลเล่มีทั้งเนื้อไม้และพลาสติก สายทำมาจากเอ็นและถ้าแบบดีดีจะผสมไส้แกะจะทำให้ไม่เจ็บมือ และที่นิยมกันมากที่สุดจะเป็นขนาด  Soprano , Concert เพราะว่าขนาดเล็กและพกพาสะดวก ราคามีทั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น

สำหรับเหตุผล 4 ข้อที่คนหันมาเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ปรีดา บอกว่า เพราะ 1. เล่นง่าย 2.ไม่เจ็บมือ(เจ็บน้อยลง) ต้องเลือกสายดีดี 3.แก้ปัญหาคนนิ้วสั้น และ 4.เล็กทำจากไม้ พกพาสะดวก กลุ่มคนที่เลือกเล่นเพราะไม่มีพื้นฐานทางด้านดนตรี เล่นแล้วไม่เจ็บมือ 50 % เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18-30 ปี ผู้หญิงชอบเล่นกีตาร์อยู่แล้ว พอฝึกกีตาร์เจ็บนิ้วเลิกไปแต่พอมาเจออูคูเลเล่รู้สึกว่ามันเล่นง่ายไม่เจ็บนิ้ว แล้วบอกต่อๆกัน


ทางด้านอาจารย์ผู้สอนเล่นอูคูเลเล่ "ศุขสันต์ ตรีนุภาพ" หรือ "ต้น" เล่าถึงทีมาในการมาเป็นครูสอนอูคูเลเล่ว่า มีพื้นฐานกีตาร์มาก่อนและอูคูเลเล่เล่นง่ายเหมือนกีตาร์ เสียงมีเสน่ห์ด้วยตัวมันเอง สนุกดี ชอบและสนใจ จับวันเดียวก็เล่นได้แล้ว แค่จำคอร์ดใหม่เท่านั้นเอง แต่เสียงกีตาร์จะละเอียดอ่อนมากกว่า อูคูเลเล่ ซึ่งจะให้เสียงสนุกสนานเล่นเพลงอะไรก็สนุกขนาดเล่นเพลงเศร้ายังสนุกได้(จริง)
"อูคูเลเล่เป็นแทรนด์น่าสนใจ อย่างคนไม่เคยเห็นแล้วมาเห็นแล้วอยากเล่น เริ่มจากหน้าตาน่ารักจะตั้งคำถามว่าเล่นได้จริงหรือเปล่า เล่นเป็นเพลงได้จริงหรือพอเล่นได้จริงจะสนใจขึ้นมาทันที"

ครูผู้สอนอูคูเลเล่ บอกเทคนิคว่า สำหรับคนเริ่มหัดเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจำ ใครที่เริ่มเล่นให้เลือกมา 1 เพลงแล้วจำคอร์ดให้ได้เป็นจุดเริ่มต้น จำว่าคอร์ดลงตรงไหนแล้วลองฟังดู ไม่ว่าจะฟังเวอร์ชั่นธรรมดาหรือ อูคูเลเล่ฟังด้วยตัวเอง แล้วมาฝึกดูว่าคอร์ดต้องจับอย่างไรแล้วเริ่มดีดลง ส่วนตัวเพลงไม้ตายที่เล่นทุกครั้งที่แนะนำคนอื่นให้เล่น เพลง I′m yours เป็นเพลงที่เล่นไม่ยากมีแค่ 4 คอร์ด และถ้าไปเล่นคู่กับกีตาร์ก็เข้ากัน เพราะเป็นโน้ตกลุ่มเดียวกัน


ส่วนปัญหาหลักๆที่พบคือ คือ กดคอร์ด D คนนิ้วใหญ่จะมีปัญหาแต่จะมีวิธี ถ้าเราฝึกจะหาวิธีกดของเราได้เองก็ไม่อยาก อย่างคอร์ด C จับอย่างไรก็ได้แค่ให้ตัวเองถนัด และคอร์ดต่อไปจะใช้นิ้วไหนก็ต้องให้มันสัมผัสกัน แต่ในยูทูบจะเห็นหลายแบบนั่นเพราะว่าเขาจะทำให้เก๋ๆ ไม่มีอะไรตายตัว ลองเอาหนังสือคอร์ดไปเปิดดูแล้วลองเล่นเพลงนั้น ถ้าคนเล่นกีตาร์มาก่อนจะจับจังหวะได้เร็วกว่า เพราะบางคนไม่คลิกเรื่องจังหวะ ส่วนใหญ่คนที่เล่นไม่เป็น คำถามแรก คือ "ดีดขึ้นกี่ทีดีดลงกี่ที" ก็จะสอนว่าเริ่มจากฟังก่อนแล้วจำเองให้ลงตรงกับที่หัวสมองบอกดีที่สุด หากไปบอกว่าดีลง 1 ที ขึ้น 2 ที ก็จะไม่ไปไหนเพราะเพลงแต่ละเพลงก็ไม่เหมือนกันดีดคนละแบบ  ถ้าสามารถจับจังหวะเองได้ เข้าใจได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าฝึกทำได้แน่นอน ถ้าเล่นได้เองจะไปได้ไกล

"ลูกศิษย์ที่มาเรียน 90 % ไม่มีพื้นฐานดนตรีก่อนแต่มันไม่ยากเลย แต่เลี่ยงไม่ได้คือต้องจำและต้องฝึก ถ้าเรียนไปแล้ววางก็ลืม ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ต้องเริ่มจากความชอบ อยากจะเล่น และเล่นแล้วมีความสุข วิธีการเลือกเครื่องดนตรีคู่กายก็ต้องไปลองฟังเสียง ลองเล่นลองดีด ลองจับดู เพื่อจะได้เกิดความประทับใจกับเสียงที่เราเลือกแล้ว" 


บางครั้งเราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่บางทีสิ่งนี้อาจจะเกิดมาเพื่อเราก็ได้ เพียงแค่เราไม่หยุดเสาะหามัน "พรแสวง" ที่หาง่ายกว่า "พรสวรรค์" จะบังเกิดขึ้นได้เพียงแค่มุ่งมั่น ตั้งใจ หมั่นฝึกฝน รักและชื่นชอบอย่างจริงจัง แล้วพยายามทำให้ดีที่สุด เพียงเท่านี้ "อูคูเลเล่" อาจกลายมาเป็นเครื่องดนตรีคู่กายของนักดนตรีมือสมัครเล่นที่อาจจะกลายมืออาชีพได้ในอนาคต ใครจะรู้ได้....?

Hello Kitty Land




ชื่อ KITTY

วันเกิด 1 พฤศจิกายน (1974)
สถานที่เกิด ชานเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ที่อยู่ Kitty 
อาศัยที่บ้านสีขาวหลังคาแดง ห่างจากตัวเมืองลอนดอน
20 กิโลเมตร ในเมืองที่ไม่มีใครทราบชื่อซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 ชีวิต คุณสามารถเดินทางไปยังเมืองแห่งนี้ได้
ภายใน 20 นาทีโดยรถยนต์ หรือ 30 นาทีโดยรถเมล์


 X -->ส่วน :

น้ำหนักเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 3 ผล สูงเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 5 ผล

กรุ๊ปเลือด :A (Negative)

ราศี :
พิจิก
สีที่ชอบ :แดง
อาหารโปรด :
พายแอ๊ปเปิ้ลฝีมือคุณแม่ ฮ็อทเค้ก พุดดิ้งและของหวานทั้งหลาย เช่น ลูกกวาด เป็นต้น
วิชาโปรด:
ดนตรีและภาษาอังกฤษ


สิ่งที่ชอบ : 

ของชิ้นเล็กๆน่ารักๆเหมือนตัวเธอนั่นเอง เธอสะสมดาวดวงเล็กๆ ปลาทองตัวน้อย เหรียญเงินและริบบิ้นมากมาย นอกจากนี้เธอยังชอบไปเที่ยวเล่นตามสาธารณะหรือในป่ากับเพื่อนๆอยู่เสมอ หากมีเวลาว่าง Kitty มักจะตรงดิ่งไปยังร้านลูกกวาดเสมอ เธอชอบลูกกวาดมากๆเลยล่ะ !

จุดเด่น :
สิ่งที่ทำให้ทุกๆคนจดจำ Kitty ได้เสมอก็คือริบบิ้นสีแดงที่หูซ้าย
ของเธอและปุยหางอันฟูฟ่องของเธอนั่นเอง
ชายในสเป็ค Kitty : 
ชอบผู้ชายที่ใจดีและเป็นมิตร รักครั้งแรกของ Kitty ก็คือ
Dear Daniel และเมื่อ Dear Daniel ได้เดินทางไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่แอฟริกา Kitty ก็ได้หันมาคบกับ Tippy หมีหนุ่มเพื่อนร่วมชั้น
ความใฝ่ฝัน : นักเปียโนหรือกวี

บุคลิก Kitty : 

    
       เป็นแมวน้อยที่ร่าเริง อบอุ่นและใจดี เธอมีฝีมือในการอบคุ้กกี้ที่แสนอร่อยและชอบทาน
พายแอ๊ปเปิ้ลฝีมือของคุณแม่ เพื่อนสนิทของ Kitty ก็คือน้องสาวฝาแฝดของเธอที่ชื่อว่า "Mimmy" นั่นเอง และตั้งแต่คุณพ่อของ Kitty ได้เข้าไปทำงานในนิวยอร์ค เธอจึงมีเท็ดดี้แบร์เป็นเพื่อนอีกมากมาย งานอดิเรกของ Kitty ก็คือการเดินทางท่องเที่ยว อ่านหนังสือ เล่นดนตร
ีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเปียโน
  
        เธอชอบชิมคุ้กกี้ฝีมือการอบของ Mimmy น้องสาว
และ Kitty ยังชอบเล่นกีฬาด้วยเช่นกัน เธอโปรดปราน
การตีเทนนิส แต่สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็คือการพบปะ
ผู้คนและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ก็เป็นเหมือนที่ Kitty บอกกับทุกคนนั่นแหล่ะว่า

"ไม่มีวันที่เราจะรู้สึกว่าเรามีเพื่อนมากเกินไป"ด้วยเหตุนี้
นี่เอง Kitty จึงกลายเป็นสาวน้อย
ที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในโรงเรียน

โรงเรียน :
โรงเรียนตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางที่มุ่งสู่ลอนดอนห่างจากบ้านของ Kitty 4 กิโลเมตร โรงเรียนของ Kitty นั้นนับได้ว่าเป็นโรงเรียนที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งซึ่งปกคลุมไป
ด้วยต้นไม้และแวดล้อมสัตว์ป่าน้อยใหญ่ Kitty และ Mimmy เดินทางไปโรงเรียนด้วยรถเมล์ด้วยกันทุกเช้าซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง
สามป้ายรถเมล์เท่านั้นคุณครูจะคอยทักทายกับพวกเธอทั้งสองอยู่ที่หน้าโรงเรียน
ทุกวัน และเป็นที่แน่นอนว่า Kitty และ Mimmy คือสองสาวที่ป็อปปูลาร์ที่สุด
ในโรงเรียน



คุณรู้มั้ย?

- Kitty ชอบแปรงฟันด้วยยาสีฟันกลิ่นสตรอเบอร์รี่   เธอห้ามใจแทบไม่ไหวทุกครั้งเมื่อได้กลิ่นหอมหวานของสตรอเบอร์รี่

- Kitty มักจะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยจักรยานสามล้อ
  คันเล็กของเธอเสมอ ไม่ว่าจะออกไปเที่ยวเล่นใกล้ๆบ้าน
  ไปช็อปปิ้ง หรือแม้แต่เวลาที่เธอออกไปเล่นกับเพื่อนๆ
Kitty's Family
Mimmy น้องสาวฝาแฝดและเพื่อนที่ดีที่สุดของ Kitty จุดสังเกตระหว่างเธอกับ Kitty ก็คือ Mimmy จะผูกโบว์สีเหลืองที่หูด้านขวา แต่ Kitty จะผูกโบว์สีแดงที่หูซ้ายนั่นเอง Mimmy มีนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างกับ Kitty เพราะเธอเป็นแมวขี้อาย แต่เธอก็เป็นแมวที่น่ารักและเป็นมิตรกับทุกๆคน เธอจึงมีเพื่อนมากมายเช่นเดียวกับ Kitty
Mary คุณแม่ของ Kitty เป็นคนที่น่ารักและใจดี เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำกับข้าว ดูแลทุกคนในครอบครัวและดูแลบ้าน คุณแม่มักจะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยเหลือลูกๆอยู่เสมอ เวลาว่างคุณแม่มักจะทำอาหารและอบเค้กกับลูกสาวทั้งสอง ฝีมือการทำพายแอ๊ปเปิ้ลของคุณแม่ก็เป็นที่เลื่องลือว่า
มีรสชาติที่แสนอร่อยแม้แต่ Kitty ก็ยังติดใจ



George 
คุณพ่อของ Kitty เป็นคนอารมณ์ดีและดูแลห่วงใยทุกๆคน เขามักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกๆคนในครอบครัวอยู่เสมอ คุณพ่อทำงานหนักและเป็นที่พึ่งพาสำหรับทุกคนได้ แต่ทว่าเขาก็มักจะนั่งใจลอยอยู่บ่อยๆเช่นกัน คุณพ่อชอบอ่านหนังสือ และพูดคุยในเรื่องทั่วๆไป
Margaret คุณย่ามีฝีมือมากในเรื่องของการทำอาหาร ชอบทำงานเย็บปักถักร้อยและทำพุดดิ้งให้กับหลานสาวทั้งสองคนทานอยู่เสมอ พุดดิ้งฝีมือคุณย่าได้รับการยอมรับว่าไม่มีใครที่จะสามารถทำได้อร่อยกว่าท่านอีกแล้ว คุณย่ามักจะนั่งปักผ้าอยู่ที่เก้าอี้โยกของเธออยู่เสมอ

Anthony คุณปู่ของ Kitty ฉลาดและรอบรู้ไปเสียทุกอย่าง ชื่นชอบการวาดภาพ
อีกทั้งยังเป็นนักเล่านิทานชั้นเยี่ยมอีกด้วยคุณปู่และคุณย่าของ Kitty อาศัยอยู่ในป่าซึ่งต้องใช้เวลาทั้งวันในการเดินเข้าไปถึงบ้านของท่านทั้งสอง คุณพ่อมักจะพา Kitty Mimmy และคนๆอื่นในครอบครัวเข้าไปเยี่ยมคุณปู่และคุณย่าอยู่เสมอ
Kitty's Friend

Dear Daniel 
Daniel เป็นแฟนหนุ่มของสาวน้อย Kitty เขามักจะเดินทางไปผจญภัยกับคุณพ่อที่เป็นช่างภาพในประเทศแอฟริกาอยู่เสมอ
วันเกิด 3 พฤษภาคม
ราศี พฤษก
สถานที่เกิด ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
งานอดิเรก ถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่า
ความสามารถพิเศษ การเต้นฮิพฮอพและเล่นเปียโน
ความใฝ่ฝัน ช่างภาพที่มีชื่อเสียงหรือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง
อาหารโปรด ชีสเค้กและโยเกิร์ต
ครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ และน้องชาย
จุดเด่น ทรงผมที่ชี้ตั้ง
บุคลิก Daniel เป็นคนที่อ่อนไหวและใสซื่อ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ เขาเป็นหนุ่มทันสมัยที่รู้จักแต่งตัวให้ดูเท่ห์อยู่เสมอ Daniel คือเพื่อนข้างบ้านสมัยเด็กที่เล่นซุกซนกับ Kitty มาตลอด กระทั่งพ่อของ Daniel ถูกย้ายไปประจำการอยู่ที่แอฟริกาทั้งสองจึงต้องแยกย้ายจากกันไป หลังจากการย้ายไปอยู่ในหลายๆประเทศทั่วโลก ครอบครัวของเขาก็ได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานที่นิวยอร์ค และจากที่นี่ทำให้เขาสามารถเดินทางไปยังประเทศอังกฤษเพื่อพบกับ Kitty อีกครั้ง
Kathy เธอเป็นกระต่ายสาวน้อยที่แสนจะสุภาพและเงียบขรึม มักคิดถึงคนอื่นๆก่อนตัวเองเสมอ Kathy จึงกลายเป็นเหมือนกับพี่สาวของทุกๆคนนั่นเอง
Jodie Jodie เป็นหนอนหนังสือ เธอเป็นสุนัขผู้เต็มไปด้วยความรู้มากมาย และเพราะเธออยากเป็นคนเก่ง Jodie จึงชื่นชอบการเรียนและอ่านหนังสือเป็นที่สุด ความใฝ่ฝันของเธอคือการเป็นนักวิจัย
Tiny Chum เท็ดดี้แบร์ตัวน้อยที่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณเสมอไม่ว่าที่ไหน Tiny Chum เป็นเพื่อนรักของทั้ง Kitty และ Mimmy มาเป็นเวลานาน และสาวๆทั้งสองก็รักเขาเหมือนน้องชายของพวกเธอ
Tippy เป็นหมีที่น่ารัก แข็งแรง เชื่อใจได้และใจดีกับทุกๆคน เขาสามารถช่วยเหลือทุกๆคนได้เสมอหากกำลังตกที่นั่งลำบาก ตอนนี้ Tippy ก็กำลังจีบ Kitty อยู่และต้องการที่จะเป็นแฟนของ Kitty ให้ได้ในสักวัน
Fifi ลูกแกะน้อยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เธอจะเล่นและพูดได้ตลอดเวลา Fifi มักจะกระโดดโลดเต้นไปรอบๆไม่ว่าเธอจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม ! ดูเหมือน Fifi จะยุ่งอยู่ตลอดจนคุณจะต้องแปลกใจเมื่อได้รู้ว่าเธอได้ทำอะไรลงไปบ้างในแต่ละวัน แล้วเธอเอาพลังมาจากไหนในเมื่อเธอใช้เวลาในการพักผ่อนแค่เพียงน้อยนิดเท่านั้น !
Tracy เป็นแรคคูนน้อยที่แสนจะว่องไวและไม่มีพิษมีภัยกับใคร เขามักสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆอยู่เสมอ Tracy จึงกลายเป็นเพื่อนรักของทุกๆคนไปโดยปริยาย
Tim & Tammy ไม่ว่าที่ใดจะมีความสนุกสนานเกิดขึ้น คุณจะพบลิงฝาแฝดแสนซนทั้งคู่อยู่ในนั้นเสมอ พวกเขาเป็นลิงที่ตลกที่สุดในโรงเรียน มีความเป็นมิตรและสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกๆคนได้เสมอ พวกเขาคือนักสร้างเสียงหัวเราะตัวน้อยๆนั่นเอง
Joey เป็นหนูที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและเป็นเพื่อนที่ดีของทุกๆคน ด้วยความฉลาดและความมีเสน่ห์ของเขา
ทำให้ Joey กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในโรงเรียน นอกจากนี้เขายังเป็นนั่งวิ่งลมกรดอีกด้วย
Lorry กระรอกลึกลับที่โผล่มาเจอ Kitty ในขณะที่เธอกำลังเก็บดอกไม้ เขาเล่าความลับอันน่าทึ่งมากมายเกี่ยวกับป่าให้ Kitty ฟัง

Moley 
ตุ่นน้อยขี้อายที่อาศัยอยู่ในสวนของ Kitty คุณสามารถพบเธอได้ที่บริเวณบึงเล็กๆซึ่งเธอใช้เป็นสถานที่สำหรับนอนอาบแดดอย่างมีความสุข










credit:* ~ ..S Pi Z ze Fa C iL e ~ *

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=742010#ixzz1RVvugv00


Beautifull Health สวยง่ายๆด้วยสมุนไพร













            กระแสความงาม พ.ศ. นี้ ใบหน้าต้องเกลี้ยงเกลา ขาวใส ไร้สิว ฝ้า กระ และรอยหมองคล้ำ เส้นผมจะดำหรือทำสีก็ต้องสลวยและเป็นเงา รักแร้ก็ต้องขาวนวลไร้รอยด่างดำ สาวไทยรักสวยในวันนี้จึงสมัครใจป็นสาวกเครื่องสำอางแบรนด์ดังจากเมืองนอกตามแรงกระตุ้นของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตกปีละหลายร้อยล้านบาท  
            ถ้าคุณทวดหญิง คุณย่า คุณยาย หรือหม่อมป้าเห็นลูกหลานใช้ครีมทาหน้ากระปุกละเฉียดหมื่น มีหวังโดนหวดแน่ เพราะแค่กล้วย 2 ใบ บดกับน้ำผึ้งก็เอามาพอกหน้าได้สบายๆ แล้ว หรือจะฝานแตงกวาเป็นแผ่นบางๆ แล้วโปะใต้ตาสัก 10 นาที เพื่อคลายล้าก็ยังไหว และถ้าห่วงว่าผมจะไม่สวยวาว ลองใช้แชมพูมะกรูดสระผมแล้วจะลืมครีมนวดผมไปเลย 

            ใครสนใจจะลองสวยแบบ BASIC คงต้องค้นคว้าเพิ่มเติมว่า พืชผักผลไม้อะไรที่มีคุณสมบัติและสามารดัดแปลงเป็นครีมบำรุงต่างๆ ได้ แต่อย่าลืมจตรวจสอบสภาพผิวให้มั่นใจก่อนว่า ถูกโฉลกกับเจ้าพืชผักผลไม้นั้นๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นประหยัดเงินค่าเครื่องสำอาง แต่เปลืองค่ายาแก้แพ้ไปซะงั้น
แล้วจะหาว่าไม่เตือน